เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เชิญผู้ประกอบการขนส่งเอกชน และรถร่วม บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มาประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง มีมติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางหมวด 2 (วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด) และหมวด 3 (วิ่งระหว่างจังหวัด-จังหวัด และ อำเภอ-อำเภอ) โดยให้ปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตรา 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร (กม.) มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.65 เป็นต้นไป ซึ่งเบื้องต้นผู้ประกอบการฯ พึงพอใจ และยกเลิกปรับลดเที่ยววิ่ง 80% แล้ว โดยได้มอบให้กระทรวงคมนาคม และผู้ประกอบการฯ ร่วมแถลงเรื่องดังกล่าวให้ประชาชนรับทราบข้อมูลอย่างเป็นทางการด้วย
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า เดิมผู้ประกอบการฯ เสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตรา 10 สตางค์ต่อ กม. แต่กระทรวงคมนาคมให้ปรับขึ้นได้แค่ 5 สตางค์ต่อ กม. ซึ่งเราในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ ก็ต้องให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และไปด้วยกันได้ แต่ทั้งนี้การปรับขึ้นค่าโดยสาร มีขึ้นได้ก็ต้องมีลงได้ด้วยเช่นกัน โดยกระทรวงคมนาคมจะใช้เวลาประเมิน 3 เดือนว่าจะให้ปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก หรือลดลง ซึ่งจะพิจารณาจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และสถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนั้น โดยการคำนวณค่าโดยสาร มีสูตรที่ใช้คำนวณตายตัวอยู่แล้ว
“กระทรวงคมนาคมเข้าใจดีทั้งผู้ประกอบการ และประชาชน แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคงไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่สามารถประกอบกิจการในภาวะที่ไม่สามารถเดินต่อไปได้ ดังนั้นก็ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าผู้ประกอบการไม่ได้มาข่มขู่จนทำให้กระทรวงคมนาคมต้องปรับขึ้นค่าโดยสารให้ แต่เป็นสภาวะที่ผู้ประกอบการเดินต่อไม่ไหวจริงๆ และผู้ประกอบการไม่ได้มาร้องทุกวัน หรือมาร้องทุกเดือน เพิ่งจะมาในเวลาที่ต้นทุนต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และผู้ประกอบการรับไม่ไหวแล้ว” นายศักดิ์สยาม กล่าวคำพูดจาก pg เว็บตรง
วันเดียวกัน ที่กระทรวงคมนาคม นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานสหพันธ์รถเมล์ กทม. และปริมณฑล เปิดเผยว่า ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสรพงศ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกบกกลาง เพื่อขอปรับค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางหมวด 4 เดินรถภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซล และก๊าซ NGV เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมราคา 8.50 บาท เป็นราคา 15.50 บาท ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก จึงขอให้พิจารณาปรับค่าโดยสารรถเมล์ และรถสองแถวหมวด 4 เพิ่มขึ้นอีก 2 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 เป็นต้นไป โดยรถเมล์ขอปรับขึ้นค่าโดยสารจาก 10 บาท เป็น 12 บาท และรถสองแถวจาก 8 บาท เป็น 10 บาท
“เมื่อกระทรวงคมนาคมปรับขึ้นค่าโดยสารให้รถร่วม บขส. และผู้ประกอบการขนส่งเอกชนได้ ก็ควรต้องขึ้นค่าโดยสารให้รถเมล์ และรถสองแถวด้วย เพราะค่าโดยสารไม่ได้ปรับขึ้นมานาน กว่าจะปรับขึ้นแต่ละครั้งใช้เวลาเป็น 10 ปี ซึ่งในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด รายได้ของรถเมล์ และรถสองแถว หายไปมากกว่า 40% และต้องมาเจอราคาน้ำมัน และก๊าซ NGV เพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ทางรถเมล์ และรถสองแถว จะมีมาตรการในการเคลื่อนไหวต่อไป แต่จะเป็นมาตรการใดนั้นยังไม่ขอบอก” นายบรรยงค์ กล่าว.
